[ย่อยPodcast] การตัดสินใจ และ Marshmallow moment
ขอเกริ่นก่อนว่าช่วงนี้เป็นช่วงที่อัยย์รู้สึกขาด motivation ในการทำอะไรต่างๆในชีวิตมาก ระหว่างเดินทางไปทำงานตอนเช้าเลยหาอะไรประเทืองๆฟังแทนเพลงซะหน่อย บทความนี้จึงเป็นพื้นที่สรุปประเด็นที่ชอบจากการฟัง podcast นะคะ
วันนี้จะย่อย Podcast จากช่อง Mission to the Moon EP. 339 การตัดสินใจเรื่องต่างๆนั้นเรียบง่ายแต่ไม่ง่าย
ในชีวิตประจำวันของเรา มีเรื่องต้องให้ตัดสินใจมากมาย โดยที่เนื้องานของเราไม่ได้มีหน้าที่ตัดสินใจเป็นหลัก เราก็ต้องตัดสินใจตลอดเวลา ตั้งแต่ตื่นนอนขึ้นมาก็เริ่มตัดสินใจแล้วว่า วันนี้จะแต่งตัวยังไง กินอะไรดี ทำงานไหนก่อน ร่วมประชุมไหนบ้าง ตราบใดที่เรายังไม่นอน ต้องมีเรื่องให้ตัดสินใจอยู่แล้ว แต่อย่างว่าล่ะค่ะ
การตัดสินใจนั้น Simple but not easy
จริงๆใน Podcast พูดไว้ 2 ประเด็น คือ ROI และ Marshmallow moment อัยย์ขอหยิบเฉพาะอันหลังมาเล่าละกันนะคะ ถูกใจเป็นพิเศษ 55
เรื่องมันเริ่มมากจากมีการทดลองให้เด็กเข้าไปอยู่ในห้อง พร้อมกับวางมาร์ชเมลโล่ไว้ แล้วบอกว่า ถ้ายังไม่กินตอนนี้ รออีกหน่อยจะเอามาเพิ่มให้อีก ผลการทดลองออกมาเป็น 2 กลุ่ม กลุ่มที่อดใจไม่ไหว หม่ำเลยดีกว่า! กับอีกกลุ่มที่พยายาม distract ตัวเองให้อดทนไว้ คงเป็นภาพที่น่ารักดีนะคะที่เห็นเด็กๆรู้จักดึงความสนใจตัวเอง เช่น ร้องเพลง มองไปทางอื่น เพื่อให้บรรลุเป้าหมาย ได้มาร์ชเมลโล่เพิ่ม แต่การทดลองไม่ได้จบแค่นี้ค่ะ เขาติดตามชีวิตเด็กๆต่อไป…
ปรากฎว่าเด็กกลุ่มที่อดเปรี้ยวไว้กินหวาน มีแนวโน้มมีงานที่ดีกว่า มีครอบครัวที่ดีกว่า มีชีวิตที่ดีกว่า
เป็นเพราะว่าเขาเหล่านั้นเข้าใจว่าตอนไหนควรจะเลือกอะไร ตอนไหนไม่ควรจะเลือกอะไร จึงเป็นที่มาในการเรียกจังหวะหรือสถานการณ์ที่ทำให้ต้องเลือกว่า Marshmallow moment
ใน Podcast มีการยกตัวอย่างง่ายๆอย่าง หลังกินข้าวเที่ยง เราจะตัดสินใจซื้อชานมไข่มุกดีไหมนะ นี่ก็เป็น Marshmallow moment เราจะเลือกซื้อชานม หรือจะอดทนไม่ซื้อ เพื่อหุ่นสวยรับสงกรานต์
หลายคนอาจจะบอกว่าไม่เห็นจะยากเลย ยังไงก็ต้องตอบว่าอดทนไม่กินอยู่แล้วถึงจะถูกต้อง
จริงๆแล้ว Marshmallow moment ไม่จำเป็นต้องเลือกทางที่ทรหดอดทนกว่าถึงจะถูกต้องเสมอนะคะ
ยกตัวอย่าง ถ้าวันนั้นเป็นวันที่เหนื่อยล้ามาก คุณทำงานช่วงเช้าอย่างหนักหน่วงและปิดจ๊อบเรียบร้อยแล้ว การเลือกซื้อชานมไข่มุกมานั่งดูดช่วงบ่ายก็เป็นอะไรที่ดีต่อใจอยู่นะคะ
สุดท้ายแล้วขอแค่เราคิดถึงผลลัพท์ว่าถ้ากินแล้วจะเป็นอย่างไร ไม่กินแล้วจะเป็นอย่างไร เราต้องการอย่างไหนกันแน่ อันนั้นแหละคืออันที่ใช่ ไม่มีถูกผิดทั้งนั้น
ย่อยมาได้ประมาณนี้ค่ะ อัยย์จับประเด็นผิด หรือสื่อสารไปไม่ถูกต้อง แจ้งได้เลยนะคะ
